วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

อาณาจักรล้านนา

                
                      
          เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อพญามังรายทรงสร้างเมืองเชียงใหม่ใน พ.ศ. 1839  เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการปกครองของเมืองที่อยู่ภายใต้พระราชอำนาจของพระองค์  และได้ดำรงอยู่ต่อมา  600  ปีเศษจนถึง  พ.ศ. 2442   เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประกาศยกเลิกหัวเมืองประเทศราชให้อาณาจักรล้านนา   ซึ่งอยู่ในฐานะเมืองประเทศราชเปลี่ยนฐานะเป็นมณฑลพายัพ   ผู้ก่อตั้งอาณาจักรล้านนาได้แก่ พญามังราย (พ.ศ. 17821854)  ซึ่งตามตำนานพื้นเมือง เชียงใหม่กล่าวว่า  เป็นโอรสของลาวเมง กษัตริย์องค์ที่ 24    แห่งแคว้นหิรัญนคร หรือเงินยางเชียงแสน  พระมารดาคือ นางอั้วมิ่งจามเมือง หรือ นางเทพคำข่าย  ซึ่งเป็นธิดาของท้าวรุ่งแก้นชาย กษัตริย์ไทลื้อแห่งเมืองเชียงรุ้งเขตสิบสองปันนา  พญามังรายประสูติเมื่อ พ.ศ. 1782  ต่อมาเมื่อพระบิดาสวรรคตก็ได้เสวยราชย์แทนใน พ.ศ. 1804  เป็นกษัตริย์ราชวงศ์ลวจังกราชองค์ที่ 25  ซึ่งเป็นองค์สุดท้าย หลังจากขึ้นครองราชย์แล้ว พญามังรายมีประสงค์จะสร้างอาณาจักรให้ยิ่งใหญ่จึงทรงรวบรวมเมืองต่างๆ เข้าไว้ในอำนาจ และทรงสร้างเมืองใหม่และย้ายราชธานีมายังเมืองที่สร้างใหม่ตามลำดับดังนี้  พ.ศ.1805  สร้างเมืองเชียงราย  พ.ศ.1816 สร้างเมืองฝาง (อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ในปัจจุบัน)   พ.ศ. 1829 สร้างเวียงกุมกาม (อยู่ในอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่  เมื่อรวบรวมเมืองทางตอนบนในลุ่มแม่น้ำกกได้เรียบร้อยแล้ว พญามังรายก็ขยายอำนาจลงมาทางใต้ ลงสู่ลุ่มแม่น้ำปิงตอนบน  ทรงใช้อุบายส่งคนไปเป็นไส้ศึกในแคว้นหริภุญชัยนานถึง  7  ปี  คนของพญามังรายยุยงชาวหริภุญชัยให้กระด้างกระเดื่องต่อพญาญีบา กษัตริย์แห่งหริภุญชัยได้สำเร็จ  พญามังรายจึงยึดเมืองหริภุญชัยได้โดยง่ายเมื่อ พ.ศ. 1835  ต่อมาพญามังรายทรงเห็นว่า พื้นที่ระหว่างที่ราบลุ่มแม่น้ำปิง และดอยสุเทพมีชัยภูมิเหมาะสมจึงสร้างราชธานีใหม่ขึ้น  ขนานนามว่า  นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่   ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างอาณาจักรล้านนา  และพญามังรายทรงเป็นกษัตริย์ของราชวงศ์มังรายแห่งล้านนา พญามังรายแห่งล้านนา พญางำเมืองแห่งพะเยา และพ่อขุนรามคำแหงแห่งสุโขทัย  เป็นศิษย์ร่วมสำนักนักเรียนเดียวกันที่เมืองละโว้  และเป็นสหายร่วมสาบานกัน เมื่อจะสร้างเมืองเชียงใหม่พญามังรายได้เชิญสหายทั้งสองพระองค์มาปรึกษาหารือด้วย  การที่กษัตริย์ชาวไทย  3  พระองค์มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันเช่นนี้ ทำให้รัฐของคนไทยมีความมั่นคงและสามารถขยายอาณาเขตออกไปได้ เพราะไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง  และเพื่อป้องกันการรุกรานของชาวจีนสมัยราชวงศ์มองโก (เจ็งกีสข่าน) ที่ขยายอำนาจลงมาในภูมิภาคนี้ พญามังรายทรงควบคุมเมืองต่างๆ ให้อยู่ในอำนาจได้อย่างสมบูรณ์  อาณาเขตล้านนาในสมัยพญามังราย ทิศเหนือคือเชียงรุ่ง  เชียงตุง  ทิศตะวันออกจดแม่น้ำโขง  ทิศใต้ถึงลำปาง  ทิศตะวันตกถึงแม่น้ำสาละวิน   ทางด้านการก่อสร้างเพื่อสาธารณะประโยชน์ พญามังรายทรงสร้างตลาดแลสะพานข้ามแม่น้ำปิงที่เวียงกุมกาม  สร้างเหมืองฝายหลายแห่งเพื่อทดน้ำไปใช้ในการเกษตร  สร้างทำนบกั้นน้ำขนาดใหญ่ยาวถึง  30  กิโลเมตรเพื่อป้องกันน้ำท่วมเวียงกุมกาม  ซึ่งถือเป็นทำ ชลประทานครั้งแรกของชนชาติไทย ทางด้านการปกครอง เชียงใหม่มีฐานเป็นศูนย์กลางของอาณาจักร  พญามังรายทรงบริหารราชการบ้านเมืองที่เชียงใหม่  ส่วนเมืองลำพูนทรงแต่งตั้งอ้ายฟ้าปกครอง  โดยอยู่ในฐานะเป็นเมืองบริวารของเชียงใหม่ ซึ่งเชียงใหม่  ปกครองอย่างใกล้ชิดเสมือนเมืองแฝด ระยะนี้ลำพูนเป็นศูนย์กลางทางศาสนา  ขณะที่เชียงใหม่เป็นศูนย์กลางการเมืองการปกครอง  ส่วนเมืองเชียงรายมีความสำคัญอับรองจากเมืองเชียงใหม่  พญามังรายจึงส่งขุนคราม โอรสไปปกครอง  สมัยพญามังรายพบว่าดินแดนล้านนา แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ล้านนาตอนบน (แคว้นโยนก)  มีเชียงรายเป็นศูนย์กลาง  ส่วนล้านนาตอนล่าง มีเชียงใหม่เป็นศูนย์กลาง  ลักษณะเช่นนี้สืบมาอีกหลายสมัย นอกจากนั้นเมืองอื่นๆ จะส่งโอรสหรือญาติตลอดจนขุนนางที่ไว้วางใจไปปกครอง ตามลำดับความสำคัญของเมือง  พญามังรายได้ ตรากฎหมายขึ้นเพื่อใช้เป็นหลักในการปกครองครองเรียกว่า กฎหมายมังรายศาสตร์  นับเป็นกฎหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษรฉบับแรกของไทย  และยังได้ประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นใช้เอง คือ อักษรไทยยวนหรือ ไทยโยนกนับว่าการเริ่มต้นของตัวอักษรของชนชาติไทยเป็นครั้งแรก  ปัจจุบันตัวอักษรไทยยวน ได้กลายสภาพเป็น อักษรคำเมืองของชาวพื้นบ้านในภาคเหนือของประเทศไทย และยังได้มีการนำเอาพุทธศาสนาเข้ามาเผยแพร่อย่างกว้างขวางในอาณาจักรล้านนา นับเป็นการเริ่มต้นของพุทธศาสนาของชนชาติไทย
     
                    
ทีมา
www.wikipedia.com

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น